วันที่ 23 ม.ค.68 ศาลจังหวัดขอนแก่น อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก และนายพิเชษฐ์ หรือ “เป๊กโก้” เพื่อนสนิทนายสมรักษ์ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2
ข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยการใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หลังนายสมรักษ์กระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ เด็กสาววัย 17 ปี ที่รู้จักกันในสถานบันเทิง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายเบิกความตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเบิกความเชื่อมโยงกัน หากไม่ประสบเหตุจริง ที่เป็นเรื่องน่าอับอาย เชื่อว่า ไม่มีจริตเสแสร้ง เอาความเท็จมาแจ้ง ซึ่งอาจถูกดำเนินการเอาผิดในภายหลัง
สอดคล้องผลการชันสูตรบาดแผล ร่องรอยความรุนแรงตามร่างกาย จากการใช้แรงกดทับ ไม่ใช่การจับธรรมดา รวมทั้งมุมปากช่องคลอดด้านล่าง ที่ผู้เสียหายให้การว่า จำเลยที่ 1 พยายามข่มขืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่ไม่บรรลุผล เพราะดิ้นขัดขืน
ข้อต่อสู้จำเลยว่า ผู้เสียหายยินยอม ขัดกับคำเบิกความ พยานแวดล้อม รวมทั้งบาดแผลย่อมไม่เกิดขึ้น หากผู้เสียหายยินยอม การที่ผู้เสียหายเดินตามไป ไม่ได้หมายความว่า จะยินยอมมีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้มีการพูดถึงการค้าประเวณี การนำสืบยังไม่พบว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง และหักล้างพยานโจทก์ได้
พิพากษาจำคุกรวม 4 ปี 8 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ญาติ 50,000 บาท และผู้เสียหาย 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่กระทำละเมิด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง